สรุป NO RULES RULES
กฏคือ ไม่มีกฏ ของ NETFLIX
NETFLIX ก้าวมาเป็นบริษัทเทคโนโลยีที่น่าทำงานด้วยอันดับ1แซงหน้า GOOGLE
เน็ตฝลิกแซงหน้ากูเกิ้ลในการเป็นบริษัทที่น่าทำงานด้วยอันดับ 1 จากการจัดอันดับของ Hire ซึ่งมาจากวัฒนธรรมองค์กรของบริษัทนั้นเองที่ ต้องการคนที่เก่งที่สุดในทั้งหมดโดยใช้ คอนเซป
“Hire the best pay the top”
จ้างคนที่เก่งที่สุดและจ่ายค่าจ้างแพงที่สุด
ดยทางReed ได้จัดทำ Culture Desk ให้กับพนักงานและคนทั่วไปได้ดูก่อนจะเข้ามาทำงานที่นี้อีกด้วย ซึ่งในเว็บไซต์ของบริษัทเองก็จะพูดถึงตรงนี้เช่นกัน Culture Netflix (เข้าไปดูได้ที่ | https://www.bigdreamblog.com/2020/12/18/no-rules-rules/)
.
Reed Hastings และ Erin Meyer ร่วมกันเขียน No rules rules โดยให้ความสำคัญกับ3แกนหลัก คือ
.
1. สร้างองค์กรที่มีแต่คนเก่ง ดึงคนที่เก่งที่สุดมาทำงาน (build talent density)
2. สร้างวัฒนธรรมแบบตรงตรง สร้างความโปร่งใสไม่มีความลับต่อกันจริงใจจริงจัง (increase candor)
3. ลดการควบคุม (reduce controls)
.
Freedom and Responsibility
ความอิสระมาพร้อมกับความรับผิดชอบ ยิ่งอิสระเยอะยิ่งต้องรู้ว่าตัวเองต้องทำหรือไม่ต้องทำอะไร คือหลักการที่ NETFLIX ยึดมาตลอด และนานมาก ๆ แล้วด้วย
.
1. Talent Density สร้างชุมชนที่มีแต่คนเก่ง
Reed เชื่อว่าทุกปัญหาสามารถจัดการได้โดยคนเก่ง ๆ หากมีคนเก่งในองค์กรปัญหาที่เกิดขึ้นก็จะถูกจัดการได้เอง รวมทั้งเขาจะไม่เอาคนที่ทั่ว ๆ ไปด้วย (องค์กรต้องมีแต่คนเก่ง) เพราะเชื่อว่าคนที่เก่งสามารถ Motivate และ Learn each other หรือผลักดันการทำงานสร้างแรงบันดาลใจ และเรียนรู้ซึ่งกันและกันได้นั้นเองครับ
.
2. INCREASE CANDOR สร้างวัฒนธรรมแบบตรงตรง
สร้างความโปร่งใสไม่มีความลับต่อกันจริงใจจริงจัง
.
การเพิ่มความจริงใจในองค์กรของ REED ส่งผลในเรื่องของ การ FEEDBACK (ภาษาไทยน่าจะใช้คำว่าติเพื่อก่อน่าจะใกล้เคียงที่สุด) โดยการ Feedback ของ NETFLIX สามารถทำได้โดยยึดหลักว่า “คุณต้องจริงใจที่ปรารถนาดีกับคนที่จะถูกฟีตแบ็คจริง ๆ” หากคุณยึดมั่นในข้อนี้ ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนคุณก็สามารถทำได้ในการ Feedback หากเราจะพูดถึงใครในองค์กร ให้พูดในเรื่องที่เราสามารถพูดเรื่องนี้ต่อหน้าเขาได้ ถ้าไม่ได้ก็อย่าพูดมันออกมา
.
Feedback Circle
- Aim to Assist
ให้ฟีตแบ็คเหมือนให้ของขวัญ เพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกันอย่างจริงใจ จริงจัง ไม่ใช่ใช้เพื่อการด่าหรือระบายอารมณ์
- Actionable
ฟีตแบ็คให้รู้ว่าแล้วเราต้องทำอย่างไรต่อ ให้บอกเรื่องที่ควรปรับปรุงและบอกแนวทางในการปรับปรุงของผู้ที่ให้ฟีตแบ็ค
- Appreciate
ให้ผู้ที่ถูก Feedback รู้สึกชื่นชม ขอบคุณกับสิ่งที่ตัวเองถูกฟีตแบ็ค ถ้าเราเชื่อว่าเขาให้ฟีตเราด้วยความหวังดีอย่างจริง ๆ อยากให้เราดีขึ้นจริง ๆ
- Accept or Discard
ยอมรับหรือไม่ก็ไม่ต้องไปใช้มัน ให้เลือก 2 ข้อนี้ เพราะการถูกฟีตแบ็คเป็นมุมมองของคนที่ถูกฟีตแบ็คหากเรารู้สึกว่าสิ่งที่เขาพูดเป็นเรื่องจริง เราก็ยอมรับแล้วก็แก้ไข หากเราคิดว่าไม่จริงเราก็ฟังและไม่ต้องใช้มัน โดยที่ไม่ต้องไปนั่งอธิบาย
3. ลดการควบคุม (Reduce Control)
การลดการควบคุม จะทำได้ต้องได้ 2 ข้อข้างต้นก่อนคือ
• องค์กรต้องมีแต่คนเก่ง ๆ ก่อน เพราะคนที่เก่ง หรือคน Talent สูงเนี้ยจะรู้ว่าตัวเองต้องรับผิดชอบอะไร รู้ว่าอะไรดีหรือไม่ดี
- กระบวนการ FEEDBACK ต้องดีมีความจริงใจ (INCREASE CANDOR) สร้างกระบวนการฟีตแบ็คที่แข็งแกร่งเรียบร้อยแล้ว พนักงานก็จะคอยฟีตแบ็คกันเองว่าใครทำอะไรดีหรือไม่ดีตรงไหน รู้ว่าอะไรถูกต้องหรือไม่ถูกต้อง Feedback ต้องไม่ใช่กระบวนการจับผิด
ปล. อันนี้เป็นการสรุปฉบับย่อจะได้ไม่ยาวเกินไป
ดู บทความ อื่น ๆ | คำคม รวบรวมให้คุณ
ทุกคนสามารถเข้าไปดูสรุปฉบับ เต็ม และดาวน์โหลดไฟล์ เพื่อนำไปใช้ต่อกันได้ที่นี้
สรุป No rules rules เต็ม ๆ | https://www.bigdreamblog.com/2020/12/18/no-rules-rules/